EP.90 – 3 ข้อปฏิบัติ เมื่อหมอบอกว่าไตเสื่อม
การตรวจสอบค่าไต: ค่า eGFR (Estimated Glomerular Filtration Rate) แบ่งเป็น 5 ระยะ: ระยะ 1: การทำงานของไต > 90% ระยะ 2: ค่า eGFR 60-90 […]
การตรวจสอบค่าไต: ค่า eGFR (Estimated Glomerular Filtration Rate) แบ่งเป็น 5 ระยะ: ระยะ 1: การทำงานของไต > 90% ระยะ 2: ค่า eGFR 60-90 […]
โพแทสเซียมในรากบัว: รากบัวมีโพแทสเซียมค่อนข้างสูง (ประมาณ 550-600 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม) ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคไตหากระดับโพแทสเซียมในเลือดสูงอยู่แล้ว โดยเฉพาะหากระดับโพแทสเซียมเกิน 5.2 mEq/L ควรหลีกเลี่ยงการทานรากบัว คำแนะนำในการทาน: หากโพแทสเซียมในเลือดต่ำหรืออยู่ในระดับปกติ สามารถทานรากบัวได้ในปริมาณเล็กน้อย โดยสามารถลดโพแทสเซียมในรากบัวได้ด้วยการต้มและเทน้ำทิ้ง 3-4 ครั้ง หากโพแทสเซียมในเลือดสูง
โพแทสเซียม หากสูงเกินไปจะทำให้เกิดปัญหาในการเต้นของหัวใจ และอาจนำไปสู่ หัวใจล้มเหลว ผู้ป่วยโรคไตควรเลือกทานผักและผลไม้ที่มีโพแทสเซียมในระดับ ปานกลางถึงต่ำ เพื่อความปลอดภัย ผักที่แนะนำ: ผักที่มีโพแทสเซียมปานกลางถึงต่ำ เช่น ผักกาดขาว, กะหล่ำปลี, มะระ, แตงกวา, หัวไชเท้า, ผักบุ้ง, พริกหวาน วิธีการลดโพแทสเซียม: ควรนำผักไป ต้มลวก
สาเหตุที่น้ำหนักลด การควบคุมอาหารอย่างเข้มงวดในผู้ป่วยโรคไต (จำกัดแป้ง, เนื้อสัตว์, ผัก, ผลไม้) อาจทำให้ได้รับพลังงานไม่เพียงพอ จึงทำให้น้ำหนักลดลงและรู้สึกอ่อนเพลีย วิธีเพิ่มพลังงาน เพิ่มแป้งปลอดโปรตีน: แป้งบางประเภทเช่น สาคู หรือ วุ้นเส้น (ต้องสุก) สามารถเพิ่มพลังงานโดยไม่เพิ่มโปรตีนที่จำกัดในผู้ป่วยโรคไต เพิ่มน้ำตาล: น้ำตาลทรายแดง, น้ำตาลมะพร้าว หรือ
การดื่มนมวัวสำหรับผู้ป่วยโรคไต นมวัวมีฟอสฟอรัสสูง ซึ่งอาจทำให้ระดับแคลเซียมในกระดูกลดลง และอาจเกิดปัญหากระดูกเปราะบาง หรือเสี่ยงต่อโรคหัวใจเนื่องจากฟอสฟอรัสจับกับแคลเซียมในหลอดเลือด ปริมาณฟอสฟอรัสใน นมวัว 1 แก้ว (200 มล.) สูงถึง 160 มิลลิกรัม ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับความต้องการของผู้ป่วยโรคไตที่ไม่ควรได้รับฟอสฟอรัสเกิน 800 มิลลิกรัม ต่อวัน คำแนะนำการดื่มนมวัว โรคไตระยะ
ปลานิล: โปรตีนสูง, ไขมันต่ำ, โซเดียมต่ำ ช่วยดูแลกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ย่อยง่ายและช่วยให้หลับดีขึ้น ปลาทับทิม: อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยดูแลหัวใจและระบบหลอดเลือด ปลาทูสด: โปรตีนสูง, โอเมก้า 3 ดีต่อสมองและหัวใจ ปลาเก๋า (กะพงขาว): โปรตีนสูง, ย่อยง่าย, ไขมันต่ำ
ปัสสาวะบ่อยเกิดจากไตไม่สามารถดูดซึมน้ำตาลกลับได้อย่างเพียงพอ น้ำตาลจึงหลุดออกมากับปัสสาวะ ซึ่งทำให้ต้องปัสสาวะบ่อยขึ้นและสูญเสียน้ำมากขึ้น กระหายน้ำเนื่องจากปัสสาวะบ่อย ร่างกายจึงขาดน้ำ ส่งผลให้เกิดความรู้สึกกระหายน้ำ หิวบ่อย กินจุร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานในเซลล์ได้ จึงเกิดภาวะขาดพลังงาน ทำให้หิวบ่อย น้ำหนักลดเมื่อร่างกายขาดอินซูลิน น้ำตาลจึงไม่ถูกนำไปใช้เป็นพลังงาน ร่างกายจึงดึงไขมันและโปรตีนสะสมมาใช้แทน ส่งผลให้น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ https://youtu.be/CTJ2wt4aKZI อยากดูแลไต ขอแนะนำ! ตัวช่วยในการดูแลฟื้นฟูไตClick : https://www.24gel.com/kidneycareอาหารเสริมเจล ความทันสมัยของคนยุคใหม่
ไข่ขาว: โปรตีนคุณภาพสูง มีกรดอะมิโนครบถ้วน ย่อยง่าย ลดการทำงานของไต ควรบริโภคตามระยะของโรคไต: ระยะ 1-2: 1 กรัมโปรตีนต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ระยะ 3-5: 0.6-0.8 กรัมโปรตีนต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เนื้อปลา: เลือกปลาสดไม่ติดมัน
ไตทำหน้าที่ขับของเสีย เช่น ปัสสาวะ การดื่มน้ำช่วยให้กระบวนการเหล่านี้มีประสิทธิภาพ หากขาดน้ำ ไตต้องทำงานหนักขึ้น อาจเสี่ยงต่อ ไตวายเฉียบพลัน……………………………………………………………………. ปริมาณน้ำที่ควรดื่ม: คนทั่วไป: 2-3 ลิตรต่อวัน (ควรจิบระหว่างวัน) ผู้ป่วยโรคไตที่ไม่มีอาการบวม: สามารถดื่ม 2-3 ลิตรได้ ผู้ป่วยโรคไตที่มีอาการบวม: จำกัดน้ำโดยคำนวณจากปริมาณปัสสาวะที่ออกทั้งวัน บวก
ผู้ป่วยโรคไต: สามารถรับประทานกล้วยได้หรือไม่? ตอบ: ขึ้นอยู่กับระยะของโรคไตและระดับโพแทสเซียมในเลือด…………………………………………………………………….. ระยะ 1 และ 2 (ไม่มีปัญหาโพแทสเซียมสูง): รับประทานได้ปกติ หากระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำกว่า 5 mEq/L…………………………………………………………………….. ระยะ 3, 4 และ 5 (โดยเฉพาะหากมีปัญหาโพแทสเซียมสูง): หลีกเลี่ยงการรับประทานกล้วย